สารซิลิโคน (Silicone)
เป็นสารกลุ่มโพลิเมอร์สังเคราะห์ซิลิโคน เป็นสารที่ไม่มีสี โปร่งใส และมีรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ในรูปของเหลว แป้งเปียก ยาง หรือแบบแข็ง โดยจุดเด่นของซิลิโคน คือ เป็นสารที่สามารถถูกนำมาออกแบบและพัฒนาให้มีความหลากหลายในการนำมาใช้งานตามความเหมาะสมของขนาดและประเภทของซิลิโคน และยังมีประสิทธิภาพในการเคลือบปิดพื้นผิวต่าง ๆ ส่วนใหญ่มักใช้เป็นส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลเส้นผมในท้องตลาด สารซิลิโคน เป็นสารที่ไม่ละลายน้ำ เป็นสารที่ล้างออกค่อนข้างยาก มักถูกใช้เป็นส่วนผสม มีราคาถูก จุดประสงค์คือนำมาใช้เพื่อเคลือบให้เส้นผมมีความเรียบเนียน ไม่ชี้ฟู เพิ่มประกายความเงางาม และดูมีความหนา มี Volume มากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วอาจเป็นอันตรายต่อเส้นผมของคุณในระยะยาวได้
ตัวอย่างของ ซิลิโคน ที่มีการใช้อย่างแพร่หลาย คือ ไดเมทิโคน (Dimethicone)
ซึ่งมีชื่อเต็มว่า Polydimethylsiloxane (PDMS) หรือ Dimethylpolysiloxane
👉 ไดเมทิโคน (Dimethicone) ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายเนื่องจากคุณสมบัติในความลื่นไหล โดยทั่วไป มีลักษณะใส ไม่เป็นพิษ ไม่ติดไฟ เราจึงมักเห็น ไดเมทิโคน ในแชมพูซึ่งทำให้ผมเงางามและลื่นสลวย, ใส่ในอาหารเพื่อให้ลดฟอง, ในงานก่อสร้างถูกนำมาใช้เพื่อยึดติด หรืออุดรอยรั่ว, ใช้เพื่อการหล่อลื่น, ใช้ในกระเบื้องป้องกันความร้อน |
👉 ในทางเภสัชกรรม มีการนำเอา ไดเมทิโคน มาผสมกับ ซิลิกอนไดออกไซด์ (Silicon Dioxide) หรือซิลิกานั่นเอง เพื่อให้ได้เป็น Activated dimethicone หรือ Simethicone และนำมาใช้เป็นยาลดแก๊ส แก้ท้องอืด |
👉 ในทางการแพทย์ด้านศัลยกรรมตกแต่ง ไดเมทิโคน ถูกนำมาใช้ทำเปลือกชั้นนอกของวัสดุเสริมขนาดเต้านม ซึ่งภายในอาจบรรจุ ไดเมทิโคน หรือ Saline Solution (สารละลายน้ำเกลือ) |
👉 สำหรับสัตว์เลี้ยง ไดเมทิโคน ถูกนำมาใช้กำจัดเห็บหมัด โดยจะทำให้เห็บหมัดไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ และทำลายวงจรชีวิตของแมลงเหล่านี้ในที่สุด |
👉 ในอุตสาหกรรมอาหาร มีการเติม ไดเมทิโคน ในน้ำมันพืช เพื่อใช้เป็นสารลดฟองและทำให้น้ำมันไม่กระเด็นเวลาทอด |
👉 ใช้เป็นสารหล่อลื่น ไดเมทิโคน ยังถูกใช้เป็นสารหล่อลื่นในถุงยางอนามัยอีกด้วย |
☛ ปัจจุบัน ซิลิโคนถูกใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ครีม โลชั่น เครื่องสำอาง ไปจนถึงแชมพู ครีมนวดผม แต่เนื่องจากซิลิโคนมีคุณสมบัติในการเคลือบติดเส้นผม ป้องกันความชื้นจากภายนอก และอาจทำให้ผมรู้สึกหนักได้ ดังนั้น คนที่มีผมมัน หรือ ผมเปราะบาง การเลือกใช้แชมพูไม่มีซิลิโคนอาจจะดีกว่า เพราะยาสระผมไม่มีซิลิโคนจะให้ความรู้สึกที่เบาสบาย และยังอ่อนโยนต่อผิวและหนังศีรษะด้วย ☚
ประเภทต่าง ๆ ของซิลิโคน

ซิลิโคน พบได้มากในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลเส้นผม เช่น แชมพู ครีมนวดผม แฮร์ซีรั่ม และพบมากในผลิตภัณฑ์จำพวกพวก all in one หรือแชมพูผสมครีมนวด เพื่อให้ผมดูดีมีน้ำหนักและความยืดหยุ่น
👉 ไซโคลเมทิโคน (Cyclomethicone) เป็นซิลิโคนที่ใช้บ่อยที่สุดในการดูแลเส้นผม เป็นซิลิโคนชนิดระเหยได้ ช่วยให้ผมนุ่มลื่น ไม่พันกัน สามารถพบได้ทั้งในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทิ้งไว้ อย่าง ลีฟออน และผลิตภัณฑ์แบบล้างออก
👉 ไดเมทิโคนโค โพลิออล (Dimethicone Copolyol) เป็นซิลิโคนที่ละลายน้ำได้และมีน้ำหนักเบา มักใช้เติมในแชมพูผสมครีมนวดผม หรือ แชมพูประเภท All in one
👉 อะโมไดเมทิโคน (Amodimethicone) เป็นซิลิโคนชนิดที่มีการดัดแปลงทางเคมี เพื่อช่วยให้ติดทนบนเส้นผมได้ดีขึ้น จึงทำให้ชำระล้างซิลิโคนประเภทนี้ออกได้ค่อนข้างยาก จึงมักพบซิลิโคนประเภทนี้ครีมนวดและผลิตภัณฑ์หมักผม
👉 ไดเมทิโคน (Dimethicone) มีลักษณะเหมือนน้ำมัน บางครั้งเรียกว่าน้ำมันซิลิโคน ช่วยเคลือบผมให้ความเงางามและเรียบลื่นให้กับเส้นผม จึงมักพบใน เซรั่มบำรุงผม และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ใช้บำรุงผมทิ้งไว้
ซิลิโคนกับปัญหาผมร่วง ที่มักเจอบ่อย…
เนื่องจากซิลิโคนเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการเคลือบและการล้างออกยาก ในหลายประเทศจึงมีความตื่นตัวและตระหนักถึงผลกระทบต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ที่อาจตกค้างจะเคลือบเส้นผมทำให้ไม่สามารถขจัดเหงื่อออกจากผิวหนังหรือหนังศีรษะ ระเหยออกสู่บรรยากาศได้ เมื่อทิ้งไว้เป็นเวลานานอาจจะสะสม ก่อให้เกิดการระคายเคืองหนังศีรษะ หรืออาจจะเคลือบหนังศีรษะทำให้ร่างผมอ่อนแอ หลุดร่วงง่าย หรือเส้นผมใหม่ที่จะขึ้นมาได้ช้า เป็นต้น

หลายคนอาจจะสงสัย ซิลิโคนเพื่อความสวยงาม กับ ภาพลวงตา เป็นอย่างไร ซิลิโคนช่วยเคลือบไปถึงแกนรากผม ช่วยสร้างมิติความเงางามสังเคราะห์ให้ผมดูสุขภาพดี แต่มันเหมือนการสร้างภาพลวงตาจากปัญหาเส้นผมที่แท้จริง ซิลิโคนที่สะสมเป็นเวลานานและล้างออกยาก อาจเป็นการป้องกันความชุ่มชื้นและน้ำมันตามธรรมชาติให้ซึมผ่านเข้าไปบำรุง ซึ่งอาจนำไปสู่ความแห้งกร้านและความเปราะบางแก่แกนผมได้
ทำไมจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีซิลิโคนเป็นส่วนผสม
ถึงแม้ซิลิโคนจะไม่เป็นพิษและมีอันตรายต่ำต่อมนุษย์ ยังมีเหตุผลอื่นที่ควรพิจารณาหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีซิลิโคนเป็นส่วนผสม ดังนี้
- ซิลิโคนเมื่อถูกทาบนผิวจะเป็นเหมือนเอาพลาสติกมาห่อผิว แม้จะป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นได้ แต่ก็จะทำให้สิ่งสกปรก เหงื่อ เชื้อแบคทีเรีย ไขมัน เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว สะสมหมักหมมอยู่บนผิวหนังได้
- เมื่อมีไขมันของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และแบคทีเรียอยู่ใต้ชั้นของซิลิโคน เป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้เกิดสิวอุดตัน หรือสิวอักเสบได้
- นอกจากทำให้เกิดสิวแล้ว ซิลิโคนยังกันไม่ให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นจากภายนอก อาจทำให้ผิวแห้ง ร่วมกับการที่เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไม่สามารถถูกผลัดออกไปได้ มีผลทำให้ผิวหนังมีสภาพแห้งและหมองได้
- การที่ผิวหนังไม่สามารถผลัดเซลล์ที่ตายแล้วได้ตามธรรมชาติ เนื่องจากชั้นของซิลิโคน กั้นไว้ มีผลทำให้การเจริญของเซลล์ใหม่เกิดขึ้นช้าลง อาจทำให้การสร้างเม็ดสีของผิวหนัง รอยแดง หรือแผลเป็นเกิดขึ้นได้
- ชั้นของซิลิโคน ที่เกิดขึ้นยังไปขวางกั้นการดูดซึมสารสำคัญในเวชสำอางหรือสารสำคัญที่ช่วยบำรุงผิว ทำให้ประสิทธิภาพที่ต้องการลดลงได้
- ซิลิโคน ล้างออกยาก การล้างผิวหน้าที่มีเครื่องสำอางที่มีซิลิโคนเป็นส่วนผสม ครั้งเดียวมักไม่พอ เช่นเดียวกับในครีมนวดผม ถึงแม้จะล้างออกด้วยน้ำแล้ว ก็มักจะมีสิ่งตกค้างที่ทำให้เกิดสิวที่หลังและตีนผมได้
- ซิลิโคนทำให้รู้สึกว่าผิวเรียบลื่น แต่ที่จริงแล้วไม่ได้บำรุงผิวแต่อย่างใด
ผลิตภัณฑ์ใดมี ซิลิโคน ดูได้อย่างไร?
ลองสังเกตบนฉลากว่ามีส่วนประกอบของสารที่มีชื่อลงท้ายดังต่อไปนี้หรือไม่

► Cones เช่น dimethicone, amodimethicone, cyclomethicone, methicone, trimethicone, trimethylsilylamodimethicone
► Conols เช่น dimethiconol
► Silanes เช่น bis-PEG-18 methyl ether dimethyl silane, triethoxycaprylylsilane, triethoxycaprylylsilane crosspolymer
► Siloxanes เช่น cyclopentasiloxane, polydimethylsiloxane, siloxane
นอกจากนี้ยังอาจมาในชื่อของ Acrylamides, Acrylates, Carbomers, Copolymers, Methacrylates, Polymers (เช่น polybutene, polyisobutene), Polyvinylpyrrolidone (PVP)
👉 ในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม Silicones เป็นสารเคมีที่เป็น non-biodegradable คือไม่สามารถย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ ทำให้ตกค้างในดินและในน้ำ อาจเป็นอันตรายต่อพืชและสัตว์ได้ ทั้งหมดนี่เองคือเหตุผลที่ว่าทำไมหลายผลิตภัณฑ์ยังคงใช้ซิลิโคนเป็นส่วนผสมอยู่ แต่หลาย ๆ คนก็หลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้เช่นกัน
สุดท้ายนี้… การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี ซิลิโคน จึงควรเลือกใช้ด้วยความระมัดระวัง ถ้าจำเป็นต้องใช้ อาจเลือกส่วนผสมที่มี ซิลิโคน แบบ Cyclomethicone และ Dimethicone Copolyol ซึ่งเป็นซิลิโคนชนิดที่เบากว่า ส่วนท่านที่มีปัญหาเรื่องหนังศรีษะ ผมร่วง ผมบาง ศรีษะล้าน อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบสำหรับผู้มีปัญหาผมร่วงโดยเฉพาะ เช่น เลือกดูผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากซิลิโคน (Silicone Free) เป็นต้น ?
Leave A Comment