ไรฝุ่น เจ้าวายร้ายตัวเล็ก ต้นเหตุอาการคัน ระคายเคืองและสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ทั้งในบ้านและในห้องนอน มีขนาดเล็กมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ไรฝุ่นตัวเล็ก ๆ เหล่านี้ สามารถทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายมาก และเป็นสารก่อภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยและมากชนิดหนึ่ง วันนี้ มารูโมะ จะพาไปรู้จัก “ไรฝุ่น” พร้อมเผยเคล็ดลับ วิธีกำจัดไรฝุ่น ตามไปดูกันเลย . . .

201202-Content-วิธีกำจัดไรฝุ่น-บอกลาอาการผื่นคันและภูมิแพ้-02 edit


ไรฝุ่นคืออะไร
?

ไรฝุ่น (Dust Mites) เป็นไรชนิดหนึ่งที่นอกเหนือจากพวก ไรนก หรือ ไรหนู มีลักษณะเป็นไรตัวเล็ก 8 ขา ขนาด 0.3 มิลลิเมตร ชอบความชื้นและชอบเกาะอยู่ตามใยผ้าหรือฝุ่นบ้าน เช่น พรม ที่นอน ตุ๊กตา เพื่อกินเศษผิวหนังหรือรังแคของคน โดยไม่กัด ไม่ต่อย และไม่ดูดเลือด ซึ่งตัวไรฝุ่นเอง รวมถึงมูลของไรฝุ่นเป็นโปรตีนที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ จึงทำให้บางคนมีอาการคัน ระคายเคือง หรือโรคภูมิแพ้และโรคหอบหืดกำเริบได้

 

วิธีกำจัดไรฝุ่น

ถึงแม้ว่าไรฝุ่นทำให้เกิดภูมิแพ้หรือหอบหืดได้ แถมยังมีขนาดเล็กจนไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่เราก็สามารถกำจัดไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่นเหล่านี้ได้ไม่ยาก ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

201202-Content-วิธีกำจัดไรฝุ่น-บอกลาอาการผื่นคันและภูมิแพ้-03 edit


1. หมั่นซักเครื่องนอน

การซักผ้าอาจจจะไม่ได้ทำให้ไรฝุ่นตายซะทีเดียว แต่ก็ช่วยกำจัดไรตัวเล็ก ๆ เหล่านี้ออกจากเส้นใยได้ ทั้งยังช่วยกำจัดมูลของไรฝุ่นได้มากถึง 98%  ดังนั้นคำแนะนำในการกำจัดไรฝุ่นยอดนิยมก็คือการนำไปซักบ่อย ๆ นั่นเอง โดยสามารถแบ่งออกตามประเภท ดังนี้

  • ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ควรซักเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
  • ปลอกหมอน ควรซักทุก ๆ 2 สัปดาห์ หรือสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้หรือหอบหืด ควรเปลี่ยนปลอกหมอนวันเว้นวันจะดีที่สุด เนื่องจากเป็นสิ่งที่สัมผัสกับใบหน้าโดยตรง
  • ที่นอน หมอน และฟูก ที่นอน หมอน และฟูก ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งสะสมไรฝุ่นชั้นดี ที่สำคัญทำความสะอาดยาก เพราะไม่สามารถถอดซักได้เหมือนกับปลอกหุ้ม จึงต้องเปลี่ยนมาใช้เครื่องกำจัดไรฝุ่น หรือเครื่องดูดฝุ่นที่มีคุณสมบัติกำจัดไรฝุ่น เพื่อดูดฆ่าไรตัวเล็กและแบคทีเรียออกไปแทน
  • ผ้าขนหนู เมื่อใช้งานผ้าขนหนูเสร็จ ต้องรีบตากผึ่งไว้ให้แห้งเสมอ และที่สำคัญควรหมั่นนำไปซักหลังจากใช้งาน 2-3 ครั้งด้วย เพื่อช่วยกำจัดและป้องกันการเกิดไรฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
  • ตุ๊กตา ตุ๊กตาต่าง ๆ ก็มีไรฝุ่นสะสมอยู่ได้ง่ายเช่นกัน จึงควรเลือกซื้อชนิดที่ซักได้ ซักง่าย ทำความสะอาดสม่ำเสมอ พร้อมทั้งตากแดดให้แห้งเป็นประจำ เพื่อช่วยลดและฆ่าไรฝุ่นที่สะสมอยู่
  • ผ้าคลุมเตียง สำหรับผ้าคลุมเตียงหรือผ้าคลุมที่นอน ควรซักเป็นประจำทุกเดือน เลือกใช้เป็นเนื้อผ้ากันไรฝุ่น เพราะถักทอแน่นเป็นพิเศษ ซักทำความสะอาดสม่ำเสมอ แต่อย่าให้บ่อยมากนัก ไม่งั้นเส้นใยจะหลวมได้
  • พรม คนที่เป็นภูมิแพ้และหอบหืดควรหลีกเลี่ยงการใช้พรมจะดีที่สุด หากมีความจำเป็นจริง ๆ ให้ลดความเสี่ยงลงด้วยการโรยยาฆ่าไร (Acaricide) ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วนำเครื่องดูดฝุ่นมาดูดออก หมั่นดูแลและทำแบบนี้เป็นประจำ
201202-Content-วิธีกำจัดไรฝุ่น-บอกลาอาการผื่นคันและภูมิแพ้-04 edit


2. การตากแดดป้องกันไรฝุ่น

นอกเหนือจากการซักแล้ว การตากแดดก็สามารถกำจัดไรฝุ่นได้เหมือนกัน แต่ในระดับเล็กน้อยหรือบางส่วนเท่านั้น เพราะเมื่อโดนแดด ไรฝุ่นจะหนีไปอยู่อีกฝั่งที่ร้อนน้อยกว่า ทำให้มันไม่ตายทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การตากแดดสามารถลดความชื้นแบบที่ไรฝุ่นชอบอยู่ ถ้าหากตากนานประมาณ 5 ชั่วโมงขึ้นไป ก็จะช่วยลดปริมาณและป้องกันไรฝุ่นได้

201202-Content-วิธีกำจัดไรฝุ่น-บอกลาอาการผื่นคันและภูมิแพ้-05 edit


3. การดูดฝุ่นลดซากหรือมูล

เครื่องกำจัดไรฝุ่นจะดูดฝุ่นออกมาได้บ้าง แต่ก็เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น เพราะไรฝุนมีขาแข็งแรงมากถึง 8 ขา จึงยึดเกาะได้ดีและหลุดออกมาได้ยาก ส่วนใหญ่ที่ดูดออกมาได้จะเป็นพวกซากหรือมูลของไรฝุ่น ต้องเลือกใช้เครื่องกำจัดไรฝุ่นที่ดี มีถุงขยะที่หนามากพอสมควร รวมถึงมีแผ่นกรอง HEPA Filter กันเล็ดลอดและฟุ้งกระจายด้วย

201202-Content-วิธีกำจัดไรฝุ่น-บอกลาอาการผื่นคันและภูมิแพ้-06 edit


4. การเช็ด

วิธีกำจัดไรฝุ่นที่ง่ายและดี คือ การนำผ้าชุบน้ำเปียกหมาดมาเช็ดทำความสะอาดตามซอกมุมหรือสิ่งของต่าง ๆ เช่น โต๊ะ ตู้ กรอบรูป และดอกไม้ปลอม เป็นประจำ

5. การฉีดยาฆ่าแมลง

ไรฝุ่นก็คือกับแมลงชนิดหนึ่ง ดังนั้นสเปรย์กันยุง สเปรย์ฆ่าแมลง หรือลูกเหม็นสามารถฆ่าและกำจัดไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่นิยมกันมากนัก เพราะไรฝุ่นมักเกาะตามที่นอน หากฉีดลงไป อาจจะเป็นอันตรายกับคนได้


วิธีป้องกันไรฝุ่น

ไรฝุ่นในบ้านและในห้องนอน สามารถทำได้ด้วยการทำความสะอาด ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายวิธี เช่น หลีกเลี่ยงการใช้พรม ผ้าม่าน โซฟาผ้า หรือตุ๊กตามีขน ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดฝุ่นออกอย่างสม่ำเสมอ ซักและตากแดดวัสดุที่ทำจากผ้าทุก 2 สัปดาห์ เคลียร์มุมรกและข้าวของสกปรกเป็นประจำ รวมถึงนำพลาสติกมาคลุมที่นอนและหมอนไว้ เป็นต้น 

นอกเหนือจากนี้ หลายคนยังนิยมเลือกใช้ผ้ากันไรฝุ่นอีกด้วย เนื่องจากเป็นตัวเลือกที่ดี สะดวกสบาย และมีผลการวิจัยชี้ชัดว่า ผ้ากันไรฝุ่นช่วยลดการฟุ้งกระจายของสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่น รวมถึงลดการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นลงได้นั่นเอง

ถึงจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มี ฉะนั้นทางที่ดีอย่าลืมทำความสะอาดบ้านบ่อย ๆ เพื่อช่วยกำจัดและป้องกันไรฝุ่น ก่อนจะสะสมหนักจนทำให้เราป่วยได้

ข้อมูลจาก : คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงพยาบาลพญาไท และ thespruce