❝ เมื่อพูดถึงปัญหาสุขภาพ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการได้รับ เชื้อแบคทีเรีย และ เชื้อไวรัส นั่นเอง ซึ่งก็มีอยู่มากมายรอบตัวของเรา ไม่ว่าจะเป็นในอาหาร ตามท้องถนน เป็นต้น วันนี้ มารูโมะ อยากนำเสนอข้อแตกต่างระหว่าง เชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ให้ทุกคนได้รู้กัน . . . ❞
เชื้อแบคทีเรีย คืออะไร?
เชื้อแบคทีเรีย ถือเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่มีขนาดเล็ก ขนาดประมาณ 1,000 นาโนเมตร และมีจำนวนมาก เราไม่สามารถมองเห็นเชื้อแบคทีเรียได้ด้วยตาเปล่าแต่สามารถมองเห็นเชื้อแบคทีเรียได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์
เชื้อแบคทีเรียมีอยู่ทั่วทุกที่ ทั้งแบคทีเรียในร่างกาย ในอาหาร, ในห้องทำงาน, นอกบ้าน, ท้องถนน เป็นต้น ซึ่งแบคทีเรียบางชนิดก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่บางชนิดก็มีโทษทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้

เมื่อเชื้อแบคทีเรีย เข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะเป็นเข้าไปทางบาดแผล อาหารที่เรารับประทาน หรืออากาศที่เราสูดดมเข้าไป เมื่อเชื้อแบคทีเรียสะสมอยู่ในร่างกายจนเจริญเติบโตมีปริมาณที่มากขึ้น ก็อาจจะทำให้เกิดโรคติดเชื้อขึ้นได้ เช่น ท้องเสีย, อุจจาระร่วง, อาหารเป็นพิษ, แผลเป็นหนอง, ปอดบวม, ปอดอักเสบ อหิวาตกโรค, โรคไอกรน, โรคบาดทะยัก, โรคฉี่หนู, โรคไทฟอยด์, วัณโรค, หนองใส, ใส้ติ่งอักเสบ, ต่อมทอมซิลอักเสบ, หูส่วนกลางอักเสบเป็นหนอง เป็นต้น
▾▾▾▾▾▾▾▾▾▾▾▾▾▾▾
เชื้อแบคทีเรีย เข้าสู่ร่างกายจากทางไหนได้บ้าง?
เราสามารถติดเชื้อแบคทีเรียได้หลายทาง ดังนี้
- ทางการหายใจ ที่จะสามารถรับเชื้อเข้าไปในร่างกายและปอด โดยการสูดลมหายใจนำเชื้อที่อยู่ในอากาศเข้าไป หรือจากการอยู่ใกล้คนที่มีเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย มีการไอ จาม มีระอองน้ำลาย การทานอาหารร่วมกัน
- การสัมผัสผิวหนังของคนที่เป็นโรค เช่น โรคเรื้อน ก็สามารถทำให้เชื้อแพร่ถึงกันได้
- การรับประทานอาหารไม่สด ไม่สุก ไม่สะอาด หรือรับประทานสิ่งที่มี เชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน ทำให้เกิดอาการท้องเสียได้
- ติดเชื้อแบคทีเรียจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันทำให้เกิดโรคหนองใน
- ติดเชื้อจากบาดแผล เช่น แผลสัมผัสกับดินหรือสิ่งสกปรก ของมีคมที่สกปรกบาด ทำให้แบคทีเรียจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่แผลและทำให้ติดเชื้อเกิดอาการอักเสบและเป็นหนองได้
- ติดเชื้อจากอาการฟันผุ เพราะฟันที่ผุ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียอาจเข้าสู่กระแสเลือดได้จากฟันที่ผุนั่นเอง
- ติดเชื้อจากการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น หรือการสักที่ผิวหนังโดยใช้เข็มที่ไม่สะอาด ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายจนเกิดการอักเสบเป็นหนอง หรืออาจเข้าสู่ในกระแสเลือดทำให้เกิดโรคลิ้นหัวใจอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียได้
- ติดเชื้อแบคทีเรียจากการไม่สวมใส่รองเท้า เดินในนา หรือในน้ำที่ไม่สะอาดเป็นเวลานาน ทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าทางผิวหนัง เกิดโรคฉี่หนูได้
เชื้อไวรัส คืออะไร?
เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็ก หลากหลายรูปร่าง มีขนาดประมาณ 20-300 นาโนเมตร เล็กกว่าแบคทีเรีย 10-100 เท่า ไวรัสจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มจำนวนขึ้น เช่น อาศัยอยู่ใน คน สัตว์ หรือพืช

เมื่อเซลล์ปกติกลายเป็นเซลล์ที่มีเชื้อไวรัส ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งไวรัสแต่ละชนิดก็จะทำให้เกิดโรคที่แตกต่างกันไป เช่น โรคหวัด, โรคไข้หวัดใหญ่, ไข้เลือดออก, โรคมือเท้าปาก, โรคพิษสุนัขบ้า, โรคมะเร็งปากมดลูก, โรคอีสุกอีใสและงูสวัด, โรคไวรัสตับอักเสบ, โรคไข้ทรพิษ, โรคสมองอักเสบ, โรคตาแดงจากไวรัส, โรคเอดส์ เป็นต้น แต่ละโรคล้วนมาจากเชื้อไวรัสคนละชนิดกัน
▾▾▾▾▾▾▾▾▾▾▾▾▾▾▾
เชื้อไวรัส เข้าสู่ร่างกายจากทางไหนได้บ้าง?
- ทางการหายใจ ลมหายใจ ไอ จาม จากการจูบกับคนที่ติดเชื้อไวรัส โดยเชื้อไวรัสจะปนออกมากับ น้ำมูก น้ำลาย ของผู้ป่วย ไม่ว่าจะป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดา, ไข้หวัดใหญ่, ไข้หวัดนก, โรคหัด หรือติดไวรัสที่ทำให้ปอดอักเสบ ก็สามารถติดต่อกันได้หากอยู่ใกล้ชิดหรือใช้สิ่งของร่วมกัน
- ทางปาก เช่น โรคท้องร่วงที่เกิดจากไวรัสโรต้า
- ทางตา ที่ทำให้เกิดโรคตาแดงจากเชื้อไวรัส
- ทางการถูกยุงกัด ทำให้ติดเชื้อไวรัสโรคไข้เลือดออกเด็งกี่ ไวรัสสมองอักเสบ
- ทางเลือด ผู้ที่เป็นโรคเอดส์ หรือโรคไวรัสตับอักเสบทุกชนิดสามารถติดต่อได้จากการได้รับเลือดที่มีเชื้อไวรัส เลือดของผู้ที่มีเชื้อเข้าปาก ใช้เข็มฉีดยาที่เปื้อนเลือดผู้ป่วย เป็นต้น
- ทางการตั้งครรภ์ เช่น เชื้อไวรัส HIV, เชื้อไวรัส CMV, เชื้อไวรัสตับอักเสบ, โรคหัดเยอรมัน สามารถแพร่เชื้อติดต่อกันได้จากแม่สู่ลูก
- การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อไวรัส เช่น โรคเอดส์, โรคหูดหงอนไก่, โรคเริมอวัยวะเพศ ไวรัสสามารถแพร่เชื้อติดต่อกันได้
- การถูกสัตว์ที่เป็นโรคกัด เชื้อไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางบาดแผลที่ถูกกัด เช่น ไวรัสโรคกลัวน้ำ หรือเรียกอีกชื่อว่า โรคพิษสุนัขบ้า

แนวทางการรักษา
การติดเชื้อแบคทีเรีย | การติดเชื้อไวรัส |
---|---|
โดยทั่วไปส่วนใหญ่จะรักษาโดยการให้ยาปฏิชีวนะ ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เชื้อเกิดการแพร่กระจาย หรือเชื้อเกิดการดื้อยา เพราะหากเชื้อดื้อยาแล้ว จะไม่สามารถใช้ยาปฏิชีวนะชนิดนั้นได้ในครั้งต่อ ๆ ไปที่อาจติดเชื้อขึ้นอีก | ส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะรักษาตามอาการที่เป็นและให้ภูมิคุ้มกันกำจัดเชื้อโรค หรืออีกวิธีคือการใช้ยาต้านเชื้อไวรัสนั่นเอง |
แม้ว่าหลาย ๆ โรคจะมีวิธีการรักษาให้หายได้ แต่จะดีกว่ามากหากไม่เป็นหรือไม่ติดโรคต่าง ๆ การป้องกันตนเองให้ห่างจาก เชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย มีความจำเป็นเป็นอย่างมาก เพราะยังมีอีกหลายโรคที่ยังไม่สามารถรักษาได้ การป้องกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพียงแค่เราดูแลรักษาความสะอาดของตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแผล การกิน การใช้ชีวิตประจำวัน ?
สุดท้ายนี้ ต้องคำนึงถึงความสะอาดอยู่ตลอด รับประทานของร้อน ใช้ช้อนกลาง มีช้อนของตนเอง ล้างมือบ่อย ๆ หรือล้างมือทุกครั้งที่ทำกิจกรรม หากไม่มีห้องน้ำ ไม่มีน้ำล้างมือ หรือไม่มีสบู่ ก็ควรพกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่อใช้ทำความสะอาดหลักจากทำกิจกรรมต่าง ๆ
Leave A Comment