☛ ในช่วงนี้ทั้ง มลพิษ ทั้ง PM 2.5 รวมถึงเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 ที่กำลังระบาดหนัก เริ่มมาคุกคามการใช้ชีวิตประจำวัน จึงจำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องให้ความสำคัญกับการรักษาความสะอาด โดยเฉพาะในบ้านที่ต้องอยู่อาศัยอยู่ทุกวัน ☚
โดยคนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับจุดใหญ่ ๆ ที่มองเห็นได้ง่าย แต่ความจริงแล้วจุดเล็ก ๆ ภายในบ้าน ซึ่งมักถูกมองข้าม ก็อาจจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้เช่นกัน บางซอกบางมุมในบ้าน ของสิ่งสกปรกแอบซ่อนอยู่ บางทีอาจจะอยู่ในที่ที่คาดไม่ถึง หรืออาจจะละเลยไปไม่ได้ทำความสะอาด วันนี้ มารูโมะ จะพาไปดูจุดเสี่ยง ที่อาจจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคต่าง ๆ กันว่าส่วนไหนของบ้าน ที่เชื้อโรคชอบซ่อนตัวมากที่สุด ก่อนจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค และทำให้คนในบ้านป่วยได้
ส่วนไหนของบ้านที่เชื้อโรคชอบซ่อนตัวมากที่สุด?

👉 สวิตช์ไฟ
การที่เราสัมผัสกับสวิตช์ไฟหลาย ๆ ครั้งโดยไม่เคยทำความสะอาด ทำให้กลายเป็นจุดที่มีเชื้อโรคสะสมอยู่มากมาย เพียงแต่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเท่านั้น ควรทำความสะอาดสวิตช์ไฟอย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถทำความสะอาดง่าย ๆ โดยฉีดแอลกอฮอล์ลงบนผ้า แล้วนำไปเช็ดสวิตช์ไฟให้ทั่ว ก่อนจะนำผ้าแห้งมาเช็ดซ้ำอีกรอบ เท่านี้ก็ช่วยให้สวิตช์ไฟปราศจากเชื้อแบคทีเรีย และสิ่งสกปรกแล้ว
จากการศึกษาในประเทศอังกฤษพบว่า บนสวิตช์ไฟมีเชื้อแบคทีเรีย ที่ก่อให้เกิดโรคท้องร่วงมากถึง 217 ตัวต่อตารางนิ้ว โดยเฉพาะสวิตช์ไฟห้องน้ำนั้นมีเชื้อโรคอาศัยอยู่มากกว่าหลายเท่าตัว ทำให้เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคไปสู่บุคคลอื่น ๆ จากการสัมผัสได้ด้วย
👉 ผ้าม่าน
เป็นแหล่งเชื้อโรคชอบซ่อนตัว และยากแก่การมองเห็น เพราะผ้าม่านแขวนอยู่ตรงหน้าต่าง ซึ่งเป็นส่วนรับลมเข้ามาในบ้าน ซึ่งหากผ้าม่านของคุณเต็มไปด้วยฝุ่น และ เชื้อโรค คือ การนำเอาเชื้อโรคพัดเข้ามาในตัวบ้านด้วยเช่นกัน แนะนำให้ทำความสะอาดผ้าม่าน โดยการถอดออกมาซักอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือทุก 3 – 6 เดือน

👉 ก๊อกน้ำ
เป็นอีกหนึ่งจุดในบ้านที่มักมีสิ่งสกปรกสะสม และมักเป็นจุดที่หลายคนลืมทำความสะอาด ซึ่งอาจเป็นแหล่งสะสมของทั้งเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรีย การทำความสะอาดนั้น เพียงแค่เช็ดด้วยน้ำร้อน หรือน้ำสบู่แล้วล้างออก หรือถ้าอยากเพิ่มความเงางามให้กับก๊อกน้ำ ให้ขัดด้วยเบกกิ้งโซดาผสมน้ำมะนาว ก็ทำให้ก๊อกน้ำกลับมาสะอาดเงางามได้เหมือนกัน
👉 ลูกบิดประตู
มือจับหรือลูกบิดประตู เป็นจุดที่ถูกสัมผัสอยู่ตลอดเวลา จึงมีโอกาสที่จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคมากที่สุดแห่งหนึ่งในบ้าน การทำความสะอาด คือ เช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคบ่อย ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง ซึ่งจะช่วยทำให้มือจับ หรือลูกบิดประตูปราศจากเชื้อโรคได้

👉 ราวจับบันได
เช่นเดียวกับลูกบิดประตู เนื่องจากผู้อยู่อาศัยต้องสัมผัสกับราวจับบันไดทุกวัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่จำเป็นต้องใช้เพื่อช่วยพยุงตัว ดังนั้น การเช็ดราวจับบันไดให้สะอาด ยังช่วยป้องกัน เชื้อโรค เข้าสู่ร่างกายด้วย การทำความสะอาดสามารถทำได้โดยผสมน้ำร้อนและน้ำส้มสายชูเข้าด้วยกัน จากนั้นนำผ้าจุ่มแล้วบิดออกให้ผ้าเปียกหมาด ๆ นำไปเช็ดราวบันได แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกครั้ง
👉 พัดลมเพดาน
เป็นสุดยอดที่เก็บฝุ่นเลยทีเดียว ควรทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยการใช้ปลอกหมอนเก่า ๆ มาคลุมใบพัดเข้าไปทั้งใบ แล้วค่อย ๆ รูดเอาฝุ่นและสิ่งสกปรกลงปลอกหมอน เพื่อไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจายออกไป

👉 ถังขยะ
ถึงแม้จะกำจัดขยะออกจากถังขยะทุกวัน แต่แบคทีเรียและกลิ่นเหม็นก็ยังคงตกค้างและสะสมอยู่ในถังขยะได้ ดังนั้น อย่าลืมล้างถังขยะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อพร้อมกับขัดสิ่งสกปรกออกทุกครั้ง รับรองว่าเชื้อโรคและกลิ่นในถังขยะหายเกลี้ยงแน่นอน
👉 พรม
หลายบ้านนิยมปูพรมไว้ในบ้านเพื่อประดับตกแต่ง แต่พรมเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและสิ่งสกปรกมากกว่าพื้นธรรมดา ควรหมั่นทำความสะอาดพรมโดยการดูดฝุ่น และนำแปรงจุ่มลงในน้ำอุ่นผสมกับน้ำยาล้างจาน (หากมีคราบราให้เติมน้ำส้มสายชูกลั่นด้วย) ถูลงบนพรม แล้วใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นซับตามจนกว่าจะสะอาด และเพื่อช่วยดับกลิ่นพรม ให้นำเบกกิ้งโซดาผสมกับแป้งข้าวโพดโรยบนพรมที่แห้งแล้ว ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก

👉 โคมไฟ
เป็นจุดที่เก็บทั้งฝุ่นและใยแมงมุมเอาไว้โดยที่เราอาจมองไม่เห็น หมั่นทำความสะอาดบ่อย ๆ โดยการถอดออกมาเช็ดล้าง หรือดูดฝุ่นใยแมงมุมที่ติดอยู่ตามโคม
👉 คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ และรีโมททีวี
เป็นจุดที่ถูกสัมผัสและถูกสับเปลี่ยนมือมากที่สุด จึงเชื้อโรคถูกหมุนเวียนและสะสมมากที่สุด ควรหมั่นทำความสะอาดคีย์บอร์ดและรีโมท โดยอาจใช้แปรงปัดฝุ่นออกมาจากร่องปุ่มกด และใช้น้ำยาทำความสะอาดเช็ดซ้ำอีกครั้ง

👉 ลำโพง
มักเป็นจุดที่หลายคนมักนึกไม่ถึงและไม่ได้สนใจที่จะทำความสะอาด แต่ก็เป็นจุดกักเก็บฝุ่นเช่นกัน สามารถทำความสะอาดได้โดยใช้แปรงขนนุ่มอ่อน ๆ ปัดฝุ่นออกมา และใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ เช็ดทำความสะอาดซ้ำอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ลำโพงเป็นรอยขนแมว
👉 ใต้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น
แหล่งฝุ่นและเชื้อโรคที่หลายคนอาจจะลืมทำความสะอาด เพราะคิดว่ามีเฟอร์นิเจอร์ตั้งอยู่ ไม่น่ามีฝุ่นมากนัก ดังนั้น เวลาทำความสะอาดควรเน้นตรงจุดใต้เฟอร์นิเจอร์ด้วยทุกครั้ง เพื่อความสะอาดในทุกซอกทุกมุม
5 ข้อแนะนำในการทำความสะอาด
หลักการทำความสะอาดง่าย ๆ ใน 5 ขั้นตอน ลดการสะสม และแพร่กระจายของเชื้อโรค เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน ดังนี้
- เก็บสิ่งของเครื่องใช้ โดยจัดวางของที่จำเป็นให้เป็นระเบียบ ไม่ควรเก็บสะสมสิ่งของที่ไม่จำเป็นไว้ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นละออง และสิ่งสกปรก
- กวาดหยากไย่ ฝุ่นละออง และเศษขยะ เป็นประจำ
- เช็ดถูคราบสกปรก ทำความสะอาดให้ทั่วถึง
- ล้างทำความสะอาดห้องน้ำอย่างสม่ำเสมอ
- คัดแยกขยะตามประเภท ได้แก่
✔ ขยะอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร เศษผัก ผลไม้ ควรเก็บใส่ถุงที่ไม่ฉีกขาดง่าย ไม่รั่วซึม มัดปากถุงให้แน่น นำไปทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ แก๊สชีวภาพ
✔ ขยะรีไซเคิล เช่น แก้ว กระดาษ ขวดพลาสติก โลหะ ให้เก็บรวบรวมนำไปจำหน่าย
✔ ขยะอันตราย เช่น ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่ หลอดไฟ ให้เก็บในภาชนะบรรจุเดิม หรือภาชนะที่ปิดมิดชิด ปลอดภัย รวบรวมและนำไปไว้ที่จุดทิ้งขยะอันตราย
✔ ขยะทั่วไป ซึ่งเป็นขยะที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แล้ว ให้เก็บรวบรวมใส่ถุงที่มีความเหนียวทนทาน ไม่ฉีกขาดง่าย ไม่รั่วซึม และมัดปากถุงให้แน่น ทิ้งลงถังที่มีฝาปิดมิดชิด
โปรดอย่าลืม ! ขณะทำความสะอาดควรสวมถุงมือ หน้ากากปิดจมูกและปากป้องกันทุกครั้ง ? ส่วน วิธีกำจัดตัวไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้จากตัวไรฝุ่นภายในห้องนอน และภายในบ้านนั้น ให้หมั่นทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูบ้านเป็นประจำ และควรซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน มุ้ง ผ้าห่ม และพรมเช็ดเท้า ทุก 1 – 2 สัปดาห์ จะช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ได้ ?
❝ นอกจากนี้ ทุกบ้านควรหมั่นดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย และรักษาความสะอาดของพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดอุบัติเหตุ และการสะสมของ เชื้อโรค ยุง หนู แมลงสาบ และสัตว์มีพิษ ซึ่งเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก และโรคติดต่อต่าง ๆ ❞
Leave A Comment